น้ำตกปิตุ๊โกลอซู อุ้มผาง ตาก

น้ำตกปิตุ๊โกลอซู อ.อุ้มผาง จ.ตาก

ป่าที่กว้างใหญ่ แอบซ่อน ความสวยงาม ไว้มากมาย และน้ำตก “ปิตุ๊โกลอซู บนเทือกเขาดอยสามหมื่น” นั้น เป็นน้ำตกที่สูงอีกแห่งเท่าที่ผู้เขียนเคยพบเห็นมาในประเทศไทย

ถึงแม้การเดินทางจะใช้เวลาเดินอยู่ในป่าในภูเขาถึง 3 วัน 2 คืน โดยเริ่มเดินที่หมู่บ้านกุยเลอตอ อ.อุ้มผาง จ.ตาก จากพื้นราบ มุ่งสู่ยอดเขาภูสูง จากภูสูงผ่านลำธาร จากลำธารสู่ผืนป่า จากผืนป่าเดินผ่านหมอกหนาหนัก

หมอกหนาหนักจะมาพร้อมละอองน้ำเมล็ดเล็ก ๆ ลอยมาในอากาศ สิ่งที่ได้ไปพบเห็นนั้นงดงามตามขบวนการทางธรรมชาติ…

หมู่บ้านกุยเลอตอ รอยต่อแห่งฤดูกาลใกล้เข้ามาเยี่ยมเยือนอีกครั้ง ถึงแม้จะผ่านข้ามฝนหนาหนักมาจากการเดินป่ามาทั้งวัน แต่แบบนี้แหละถึงจะเรียกว่าการเดินป่า…

ยามฤดูฝนเช่นนี้ หลายคนคงไม่อยากเข้าป่า เพราะการท่องเที่ยวในฤดูนี้ เป็นการเดินทางที่ยากลำบาก ไม่ว่าจะเป็นการเดินย้ำโครน-เลน ข้ามสายน้ำที่พัดหลากตามลำห้วย

ต้องจัดเก็บอุปกรณ์กล้องเลนด์ให้ดี ทุกเรื่องล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้ตัวเราต้องเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ ช่วงนี้จึงถือว่าเป็นเวลาแห่งการเติมเต็ม ให้กับสรรพชีวิตทั้งมวลในผืนป่า ป่าทั้งผืนภูเขาทั้งลูกจะเขียวขจี

ต้นไม้จะงดงาม ทิวผาที่เป็นผาหินจะงดงาม ไม่มีแสงสะท้อน ดอกไม้ป่านา ๆ สายพันธุ์จะงอกเงย เสียบแซมคาคบไม้ แต่ถึงที่สุดไม่ว่าจะอุปสักใดล้วนเป็นบททดสอบ ให้เราแก้ปัญหา ก้าวข้ามผ่านไป

ยามนี้เป็นยามสายแล้ว รถจาก อ.อุ้มผาง ใช้เวลา ประมาณ 1.5 ชม. ขับมาส่งเราที่หมู่บ้านกะเหรี่ยงกุยเลอตอ(ชื่อหมู่บ้านเป็นภาษากะเหรี่ยง)

รอยต่อแห่งฤดูกาลใกล้เข้ามาเยี่ยมเยือนอีกครั้ง ถึงแม้จะผ่านข้ามฝนหนาหนักมาแต่ยามนี้การเดินป่าก็ยังพบกับฝนบ้างเป็นครั้งคราว ตลอดเส้นทางเดินในแนวป่าเรามักพบดอกไม้ป่าเป็นระยะ ๆ

สายน้ำตามลำห้วยแม้ไม่มาก แต่ก็ไหลเอ่อล้นลงจากที่สูง สู่เบื้องล้าง สายน้ำบางจุดใสไหลเชียว จนมองเห็นรากไม้ในน้ำ หลากชีวิตต้องพึงพาสายน้ำ ชาวบ้านแถวหมู่บ้านกุยเลอตอก็เฉกเช่นเดียวกัน คณะเดินทางเราก็เช่นเดียวกัน

หมู่บ้านกุยเลอตอ เป็นหมูบ้านเก่าแก่ ที่ตั้งอยู่ใกล้กับสายน้ำ แม่น้ำจัน มายาวนาน จนเดิมทีหลายคนคิดว่าจุดนี้เป็นเมืองหน้าด่าน

ชาวพื้นถิ่นส่วนใหญ่ ในพื้นที่มักเป็น ชาวไทยเชื่อสายกะเหรี่ยง ชาวบ้านบางส่วนหลายหมู่บ้านในพื้นที่ยังคงนิยมแต่กายแบบดังเดิมของตนเอง

แต่ละบ้านจะมีหูกทอผ้าใช้กันเอง นิยมเลี้ยง หมู ไก่ ปลูกผัก เป็นอาหาร เลี้ยงช้างไว้เป็นพาหนะสำหรับเดินทางขนส่ง

ส่วนหมู่บ้านที่ใกล้ถนน อย่างหมู่บ้านกุยเลอตอ ปัจจุบัน นิยมแต่ชุดกะเหรี่ยงขับมอเตอร์ไซร์คหรือขับรถอีแต๊ก ชาวบ้านส่วนใหญ่มักประกอบอาชีพเกษตรกรรม

จากจุดหมู่บ้านแห่งนี้ เราจะใช้สองเท้าเดินลัดเลาะ ขึ้นลงไปตามเทือกเขาหลายลูก ผ่านลำธารน้ำใสไหลเย็นตลอดแนวราวป่า

ป่าเขียวขจีจะชุ่มชื่นตลอด ใช้เวลาเดินเท้า ประมาณ 4 ชม.(สำหรับพวกเครื่องแรง) ส่วนผมขอเดินทั้งวันไปถึงจุดนัดพบในหุบเขา ที่น้ำตกทิ้งสายน้ำลงมากระแทกหินด้านล่าง น้ำตกปิตุ๊โกลอซู

จากการแบกของหนัก ใช้เท้าเดินทางมาตลอดทั้งวัน ความอ่อนล้าของสองขา ก็มีบ้างเป็นธรรมดา เขาสูงชัน แรงดึงดูดโลก หากรู้หลักการเดินขึ้นที่สูง เราก็ไม่เหนื่อยมากเท่าไหร่

การเดินขึ้นที่สูงต้องค่อย ๆ เดิน ค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจ หายใจลึก ๆ เป็นบางครั้ง(เป็นแนวปฎิบัติส่วนตัว) สำหรับวันนี้ดังที่กล่าวไว้ มาถึงจุดนัดพบเกือบค่ำ ฟ้ายามค่ำในป่าหุบเขานั้นมืดเร็วกว่าปรกติ

ต้นไม้ใหญ่แผ่ปกคลุม ทำให้แสงเล็ดรอดลงมาได้เล็กน้อย เดินตามทางเดินเล็ก ๆ ที่มีหญ้าแผ่ปกคลุมลงมาที่ ใกล้ ๆ กับลำธารน้ำตก จะมองเห็นควันไฟลอยปนอยู่กับสายหมอก

ไฟที่มีไฟเพียงเล็กน้อยในกอง ยังคงคุกรุ่นอยู่ในหินสามก้อน กาน้ำดำ ๆ ยังคงตั้งอยู่ไม่ห่างจากเตาไฟ(เข้าป่าต้องต้มน้ำดื่ม)

เต้นท์ที่พัก เปที่นอน ลูกหาบเตรียมไว้ให้หมดแล้ว ต้องขอบคุณลูกหาบทุกท่าน ที่ในหลากหลายเรื่องเล่า เล่าความในหลายตอนในสารคดีเรื่องเล่าประสบความสำเร็จด้วยดี ก็เพราะทีมนำทางพร้อมลูกหาบที่ดี

ตอนนี้ควันไฟในหุบเขากับสายหมอกปนกันจนแยกไม่ออก เสียงสายน้ำตกลงมากระแทกหินดังไม่ขาดสายฝ่าความมือเขามาให้ได้ยิน

เสียงตัวขั่ว(ส่งเสียงร้องดังระงมทั่วแนวป่า(ชาวกะเหรี่ยงเรียก ตัวคั่ว ลักษณะคล้าย ๆ กบหรือตะปาด ร้องเสียงคล้าย ๆ กบ) เสียงแห่งพงไพรผสมกับความมืดของผืนป่า เป็นความรู้สึกเดิมแท้ที่ชีวิตพึงได้รับ

ความงดงามแห่งบรรยากาศ บุกเข้าสู่ภาวะภายในจิตสำนึกส่วนลึกแห่งจิตใจ เราโดนสภาพแวดล้อมหลอมกลืนเข้ากับธรรมชาติ เราเป็นส่วนเล็ก ๆ บนโลกใบนี้ เราไม่ยึดติดธาตุขันธ์ วัตถุธาตุ

คงเหลือจิตที่สะอาดปราบปลื้ม ไหลมุ่งไปสู่จักวาลความว่าง ถึงที่สุดความว่างก็อนิจจัง แต่โลกความจริงแท้เรายังคงอยู่ใกล้กับริมธารสายน้ำ (สายน้ำตกปิตุ๊โกลอซู มีไม่มากนัก ช่วงที่ผู้เขียนขึ้นมาชม)

น้ำตกปิตุ๊โกลอซู เป็นน้ำตกไหลลงมาตามทิวผา มีความยาวเป็นอย่างมาก จนอยากจะบอกว่ายาวที่สุด เท่าที่เคยพบเห็นมาในประเทศไทย หากจะให้พบเห็นความงดงามจากมุมสูงเราต้องนอนในป่าอีกหนึ่งคืน

น้ำตกสายนี้เป็นแหล่งกำเนิดแห่งสายน้ำแม่จัน ต้นธารบนเทือกเขาสูงมีสายหมอกหนาแผ่ปกคลุมอยู่ตลอดเวลา สายน้ำตกปิตุ๊โกลอซู ตั้งอยู่ในเทือกเขาดอยสามหมื่นเทือกเขาดอยสามหมื่นชื่อดอยแห่งนี้ไม่ค่อยคุ้นหู

นั้นด้วยเป็นดอยสูงที่กั้นเขตแดน เกือบถึงแนวชายแดน ในแถบหมู่บ้านเปิงเคลิ้ง(ห้วยแดน)ประเทศไทย ซึ่งเป็นด่านชายแดนไปสู่เพื่อนบ้าน

ซึ่งผู้เขียนได้แยกตัวเดินทางไปเยี่ยมชมต่างแดน แนวชายแดนติดกันเล็กน้อย หลังจากที่ลงมาจากเทือกเขาดอยสามหมืนน้ำตกปิตุ๊โกลอซู และได้บันทึกภาพหมีควาย ที่ชาวบ้านในดินแดนเพือนบ้านเลี้ยงไว้

ซึ่งผมก็ทำอะไรไม่ได้มากเพราะเป็นต่างแดน ต่างประเทศ เห็นแล้วก็สงสารหมี(สัตว์โลก) ที่มันไม่ได้อยู่ป่าใหญ่อย่างที่ควรจะเป็น แต่ต้องมาอยู่กรงเล็ก ๆ

หากลงไปสู่หุบเขาฟาก ด่านชายแดนจะเป็นอากาศร้อนใกล้ทะเล แต่หากอยู่ภูเขาฟากทาง บ้านกุยเลอตอ อากาศที่สูงกว่าจะเย็นสบาย

เช้าวันใหม่มาพร้อมกับรายการอาหารใหม่ ๆ ที่ลูกหาบประกอบได้อย่างอร่อย แต่ที่ขาดไม่ได้หากผมขยับแก้ว เป็นที่รู้กันของพี่ ๆ ลูกหาบว่า น้ำร้อน ชงชาหรือกาแฟ

ส่วนพี่ ๆ เขานิยม ยาเส้นใบตอง คนเราชอบไม่เหมือนกัน เป็นธรรมดาโลก วันนี้หลังอาหารเช้า เราจะขับเคลื่อนสี่ล้อด้วยตนเอง ด้วยสองมือ สองเท้า จะต้องช่วยกันพยุงไต่ไปสู่ที่สูงยิ่งขึ้นไปอีก เราจะย้ายจุดพัก

เราไต่ไปตามสันเขา ผ่านป่าต้นปลง ตะไคร้น้ำ ต้นมอส บีโกเนีย วันนี้เดินครึ่งวันถึงจะตั้งแค้มป์ พักทานอาหารกลางวัน เมื่อไต่สูงขึ้นมาการตั้งแค้มป์ต้องรู้จักมองทิศทางลม

ลมบนยอดเขาพัดแรง ม้วนสะบัดถึงขนาดหอบเต้นท์ที่ฝังหมุดไปได้ทั้งหลัง ตรงจุดที่พักแห่งนี้ หมอกหนาหนักจะมาพร้อมละอองน้ำ เราจะเฝ้าบันทึกภาพ ทะเลหมอก น้ำตกมุมสูง จากเที่ยงไปถึงค่ำ จากเช้าถึงสาย

จากนั้น เราจะเดินลงจากเทือกเขาดอยสามหมื่นไปอีกทาง ตลอดทริปการเดินทาง 4 คืน 5 วัน คือการเดินทางที่หอมกรุ่นด้วยมวลมิตร มิตรภาพระหว่างคนกันคน มิตรภาพระหว่างคนหวนคืนสู่ธรรมชาติ…เดิมแท้…

เมื่อจอดรถแวะข้างทาง นกเงือกฝูกใหญ่บินข้ามหัวไป ในทิวเขาด้านหน้า คณะเราเองก็เช่นกัน ต้องเดินทางข้ามเขาอีกหลายลูก กว่าจะถึงแม่สอด แล้วกลับมาพบกันใหม่ สวัสดี

บทส่งท้าย สำหรับการเดินทาง ขึ้นไปบันทึกภาพ น้ำตกปิตุ๊โกลอซู ในครั้งนั้น ถือว่ายังไม่ประสบผมงานเท่าไหร่ เนื่องจาก น้ำที่หน้าผามีน้อย ซึ่งการเดินทางขึ้นไปตลอดทั้งวัน ฝนก็ตกมาดีอยู่ แต่ไหง น้ำจึงน้อย ไว้มาแก้มือใหม่ครั้งหน้า

ข้อมูลจำเพราะ การเดินทางจาก จ.ตาก ยึดเส้นทาง อ.แม่สอด มุ่งสู่ อ.อุ้มผาง จากนั้นขับไปตามทางรถยนต์เส้นทางสาย อุ้มผาง-หมู่บ้านเปิงเคลิ้ง ระยะทาง 60 กม. ใช้เวลาประมาณ 1.5 ชม. ถึงหมู่บ้านกะเหรี่ยงกุยเลอตอ จากหมู่บ้านต้องเดินด้วยเท้าเขาป่าเขา

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สุชาติ จันทร์หอม(พี่อู๊ดดี้) แห่ง รีสอร์ทตูกะสู โทร.081-825-8238 , 081-819-0304

การเดินทางกับมวลมิตรพาหรรษา การเดินทางแห่งเท้ากัทบดวงจิตที่หลอมกลืนเข้ากับสภาวะทางธรรมชาติ จึงเกิดธรรมประจำจิต…

น้ำตกรูปหัวใจ ดอยสามหมื่น น้ำตกรูปหัวใจหรือน้ำตกปิตุ๊โกลอซู น้ำตกที่สวยงามแห่ง บ้านกุยเลอตอ อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก…ยังคงรอต้อนรับนักเดินทาง…

สิงห์พเนจร รายงานข่าว/ภาพ #น้ำตกปิตุ๊โกลอซู #น้ำตกแปโดทะ #น้ำตกรูปหัวใจ #ดอยสามหมื่น #อุ้มผาง #ตาก #เที่ยวตาก #ทททสำนักงานตาก #สื่อสังคมข่าวเรียนรู้สังคมโลก #หมู่บ้านเปิงเคลิ้ง #หมู่บ้านกะเหรี่ยงกุยเลอตอ #ปิตุ๊โกลอซูน้ำตกรูปหัวใจ ภาพประกอบระหว่างเดินทาง



More from my site

อาชีพรับจ้าง , ช่างภาพ , นักข่าว , รับบันทึกภาพถ่ายภาพงานทั่วไป , แถลงข่าว , สารคดี , เป็นช่างภาพนักเขียนอิสระให้กับ นิตยสารหลายฉบับ , เว็บต่าง ๆ และหนังสือพิมพ์