พระนาคปรกเทพนิมิตร อ.ชุม ไชยคีรี

พระนาคปรกเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี 

พระนาคปรกเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี  ประวัติการสร้าง ปี 2469  ปี2467 และปี 2499

พระนาคปรกเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี
พระนาคปรกเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี

พระนาคปรกเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี เมื่อนานมาแล้ว โดยประมาณ 15 ปีที่ผ่านมา ได้บูชาพระนาคปรกใบมะขามเนื้อโลหะผสมมาหลายองค์ จากวัดแห่งหนึ่งใกล้ๆ แถวเยาวราช ซึ่งหาปัจจัยบูรณะวัด สร้างวิหาร ซึ่งพระที่ว่า ที่มีอยู่ในตู้วัดส่วนใหญ่ เป็นเหรียญที่พระหลวงปู่แหวน สุจิณโน พระอริยเจ้า พระคณาจารย์ดังแห่งยุคในประเทศไทย เมตตาอธิฐานจิตไว้ให้

พระนาคปรกหลวงปู่แหวน สุจิณโน ดอยแม่ปั๋ง ปี 16 เชียงใหม่ เมตตาอธิฐานจิตให้ผู้สร้างถวาย
พระนาคปรกหลวงปู่แหวน สุจิณโน ดอยแม่ปั๋ง ปี 16 เชียงใหม่ เมตตาอธิฐานจิตให้ผู้สร้างถวาย

ซึ่งการเช่าบูชาพระนั้นก็เป็นเรื่องความชอบส่วนตัว เรียกว่าช่วงทำงานหาเงินมีเงินเขามา ในจิตใจตนเองนั้นเป็นอันต้องนึกที่จะแบ่งปัจจัยเข้าวัดทำทานทำบุญ ถ้าเดินทางเข้าวัดไหนมองเห็นเหรียญพระถูกใจตนเอง  เป็นอันว่าไม่อิดอ๊อดที่จะบูชามาครอบครอง และยิ่งเป็นตู้วัด ก็คิดว่าได้ทำบุญได้พระมาบูชาแขวนขึ้นคอ ได้มีไว้แจกจ่ายกัลยาณมิตร ครั้งนั้นเองจึงได้บูชาพระนาคปรกใบมะขามมาหลายองค์ ซึ่งพระนาคปรกส่วนใหญ่เป็นพระนาคปรกใบมะขามที่มีผู้สร้าง ขอเมตตา หลวงปู่แหวน สุจิณโน ดอยแม่ปั๋ง จังหวัดเชียงใหม่ เมตตาอธิฐานจิตไว้ให้เป็นสมบัติโลก

พระนาคปรกหลวงปู่แหวน สุจิณโน ดอยแม่ปั๋ง ปี 16 เชียงใหม่ เมตตาอธิฐานจิตให้ผู้สร้างถวาย
พระนาคปรกหลวงปู่แหวน สุจิณโน ดอยแม่ปั๋ง ปี 16 เชียงใหม่ เมตตาอธิฐานจิตให้ผู้สร้างถวาย

แต่ในบรรดาพระนาคปรก ที่บูชามาหลายองค์นั้น มีพิมพ์ต่างจากองค์อื่นๆ อยู่หนึ่งองค์ ภายหลังมาสืบค้นข้อมูลจากเอกสารอ้างอิง จึงทราบว่าเป็นพิมพ์พระแบบ พระนาคปรกเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี ปี 2499 และที่ยิ่งแปลกก็คือ พอมาทราบวิธีใช้อาราธนาพระ ซึ่งก็ตรงกับคำที่ตนเองใช้บริกรรมอยู่เป็นประจำทุกวัน

พระนาคปรกเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี
พระนาคปรกเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี

วิธีใช้อาราธนาพระนาคปรกเทพนิมิตร ตั้ง นะโม 3 จบ ตั้งจิตอธิษฐานว่า ข้าพเจ้าขอถึง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งที่ระลึก หายใจเข้าภาวนาว่า พุทธ หายใจออกภาวนาว่า โธ จิตสงบเป็นอารมณ์ พุทโธ แล้วกล่าวด้วยคาถา อิสวาสุ สุสวาอิ อะสังวิสุโลปุสะพุภะ ๓ จบ  หรือถ้ามีเรื่องเดือดร้อนมีเหตุจำเป็นที่จะต้องถามพระ ให้ทราบถึงเหตุนั้น ให้จุดธูปเชิญเทวดาที่รักษาพระ พร้อมด้วยระลึกถึงอาจารย์คง อาจารย์ขุนแผน ตั้งใจให้เป็นสมาธิ ใช้มือจับพระเข้า แล้วนั่งบริกรรมด้วยคาถานี้ นะมะพะทะ นึมึพึทึ บริกรรมไปจนเทวดามาเข้าทรงแล้วจึงถามได้ตามปรารถนา พระนี้ อาจารย์ชุม รับรองว่า ใช้ได้ทั้งหญิงชายเด็กผู้ใหญ่ ห้ามนำไปทดลองทำเป็นเล่น เป็นอันขาดความเคารพนับถือ ผู้ที่ไม่มีความเชื่อขออย่าได้รับพระไปตั้งแต่วันนี้ จะเกิดโทษ นานาชนิดแก่ตน ฯลฯ …ยิ่งสืบค้นข้อมูลประวัติ ยิ่งอยากรู้ ตามรู้ไปจนสุดทางเหนื่อยล้าค่อยพัก…

พระนาคปรกเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี 
พระนาคปรกเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี

เปิดประสบการณ์ศึกษาเรียนรู้สืบค้นจากตำนานเอกสารอ้างอิงใบปลิว โบชัวร์ แผ่นพับ แหล่งข้อมูลและผู้รู้ พอจะได้ใจความมาเล่าสู่กันฟัง ดังนี้  ตามตำนานประวัติเล่าไว้จากการจัดสร้างพระนาคปรกเทพนิมิตร ในช่วงปี พ.ศ. 2496 – 2497  ครั้งหนึ่งเคยมีผู้สอบถามท่านอาจารย์ชุม พระรุ่นไหนดีที่สุด ท่านจึงกล่าวให้ฟังใจความว่า พระเทพนิมิตร โดยให้เหตุผลว่าอัศจรรย์ตั้งแต่ก่อนสร้าง ระหว่างสร้าง และเมื่อสร้างเสร็จแล้ว ขนาดว่าตายแล้วเกิดใหม่อีกที ยังไม่แน่ว่าจะทำได้แบบครั้งนั้นได้อีกรึเปล่า

พระนาคปรกเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี 
พระนาคปรกเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี

ส่วนมูลเหตุที่ให้ชื่อว่า เทพนิมิตร  นั้นเป็นความเชื่อส่วนบุคคล เพราะได้นิมิตรตำราจากความฝัน  โดยฝันว่ามีอาจารย์ผู้เฒ่ารูปหนึ่งมาบอกกล่าว ต่อไปเบื้องหน้าความสุขความสบายจะไม่มีแก่มนุษย์ผู้ไร้ศีลธรรม จะประสพภัยอันเกิดจากศาสตราอาวุธนาๆชนิดซึ่งไม่เคยพบเห็น ภัยจากโจรผู้ร้ายที่มีใจดำอำมหิตเยี่ยงสัตว์ป่า และภัยจากภูตผีปีศาจ

พระนาคปรกเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี
พระนาคปรกเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี

เพื่อให้พ้นจากภัยนี้ท่านบอกว่าให้หาดอกไม้ที่พระสงฆ์เถรานุเถระทำวัตรขอขมา โทษซึ่งกันและกันก่อนเข้าพรรษา และดอกไม้หน้าพระประธานวันเข้าพรรษาวันเดียวให้ได้ 108 วัด กับให้เอาตะไคร่พระเจดีย์ที่บรรจุพระบรมธาตุ ตะไคร่พระศรีมหาโพธิ์ มาทำเป็นรูปพระเข้าพิธีปลุกเสกแล้วแจกให้ทั่วถึงกัน พร้อมกันนั้นขอร้องผู้ที่มาขอรับพระ ให้ละบาปบำเพ็ญบุญ มั่นอยู่ในศีลธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คุณพระจะรักษาให้พ้นภัยทั้งปวง

พระนาคปรกเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี
พระนาคปรกเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี

ท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี ตื่นขึ้นมารู้สึกปลื้มใจ จึงประกาศให้บรรดาศิษย์ ช่วยกันจัดหา โดยกำหนดเอาดอกไม้บูชาพระ จากพระอารามหลวงอารามราษฎรที่ศักดิ์สิทธิ์ทั่วประเทศไทย อาศัยความพร้อมเพรียงของศิษย์ทั้งหลายจึงจัดหามาได้ตามปรารถนา พร้อมกันนั้นยังได้ผงของอาจารย์ต่างๆ หลายสำนัก เช่น ผงวิเศษของอาจารย์คง อาจารย์ของขุนแผน ซึ่งมีศิษย์นำมามอบให้พร้อมด้วยประวัติ ผงศักดิ์สิทธิ์นี้ ขุดพบจากใต้ฐานพระเจดีย์เก่า ณ บ้านศรีประจันต์ ตำบลศรีประจันต์ จังหวัดสุพรรณบุรี ด้วยความร่วมมือร่วมใจของบรรดาศิษย์หลายร้อยคน พร้อมด้วยการเสียสละทั้งกำลังทรัพย์และกำลังกาย จึงได้สิ่งที่ต้องการมาครบตามปรารถนา จึงเข้าพิธีทำ สร้างพระ ปลุกเสกตลอด 3 เดือน  พร้อมด้วยการทดลองคุณภาพ เห็นเป็นที่ไว้วางใจได้ จึงเริ่มแจกแก่บรรดาศิษย์ที่เข้าพิธียกครูประจำปี แล้วเก็บไว้แจกผู้ที่สมัครเข้าเป็นศิษย์ใหม่เพื่อเป็นที่ระลึก พร้อมด้วยการขอร้องให้ละบาปบำเพ็ญบุญ ประพฤติตนเป็นพลเมืองดีของชาติ

พระนาคปรกเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี 
พระนาคปรกเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี

อาจารย์ชุม ไชยคีรี ท่านว่าดี ทางกันศาสตราวุธทุกชนิด ตลอดถึงกันโจรและสัตว์ร้าย หนักไปทาง คงกระพัน เมตตา มหานิยม มหาเสน่ห์  ใช้ได้ทั้งหญิงชายเด็กผู้ใหญ่ พระรุ่นนี้ลูกศิษย์อาจารย์ชุม จึงนิยมบูชาติดตัวกันมาก สำหรับพระเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี สร้างและปลุกเสกเมื่อปี 2497 มีพระหลัก 6 พิมพ์ด้วยกัน เช่น 1. พระนาคปรกเทพนิมิตร หลังยันต์ห้า(แทนตัวอ.ชุม ซึ่งเกิดวันเสาร์) สำหรับแจกผู้ชาย 2. พระกลีบบัวเทพนิมิตร หรือเทพนิมิตรพิมพ์เล็ก(แทนตัวคุณแม่บุญสืบ ภรรยา อ.ชุม ซึ่งเกิดวันพฤหัสบดี) สำหรับแจกผู้หญิง 3. พระสาม(พิมพ์พระลำพูน) 4. พระโคนสมอ(พิมพ์พระอยุธยา) 5. พระขุนแผนทรงพล(พิมพ์พระสุพรรณ) 6. พระขุนแผนเทพนิมิตร พิมพ์ฐานบัว

พระนาคปรกเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี 
พระนาคปรกเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี

สองพิมพ์แรกจะเป็นพระพิมพ์ที่จัดสร้างและแจกจำหน่ายออกไปมาก ผู้คนรู้จักเล่นหากันเป็นมาตรฐานดีแล้ว แต่นอกจากนี้ยังมีพระพิมพ์พิเศษที่หาชมได้ยากอีกหลายๆ พิมพ์ ร่วมพิธี ซึ่งปัจจุบันเป็นที่หวงแหนของลูกศิษย์ลูกหาที่เก็บกันไว้ พระพิมพ์พิเศษโดยมากจะเป็นพิมพ์ที่ทำตามอย่างพระกรุโบราณ หรือพระเกจิรุ่นเก่าๆ มีทั้งแบบหลังปั๊มยันต์ห้าและหลังเรียบ เนื้อหาของพระเป็นแบบเดียวกับพระนาคปรกเทพนิมิตรทุกประการ มีทั้งสีดำและแดง …ฯลฯ

พระนาคปรกเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี 
พระนาคปรกเทพนิมิตร อาจารย์ชุม ไชยคีรี

ส่วนต่อไปนี้เป็นอีกหนึ่งตำนานประวัติบันทึกของท่าน อาจารย์ชุม ไชยคีรี หลวงปู่คงปรมาจารย์ขุนแผน นักรบขุนศึกจอมขมังเวทย์สมัยอยุธยา หลวงปู่คง อยู่วัดตาล หรือวัดแค เมืองสุพรรณบุรี สมัยอยุธยาเป็นราชธานี เป็นพระอาจารย์ขุนแผนองค์แรก ท่านได้สร้างพระเครื่องทรงขุนแผนเรือนแก้วมอบไว้ให้กับขุนแผนบูชาติดตัว เมื่อพ.ศ.๒๔๙๖ ท่านได้มาเข้าประทับทรงข้าราชการผู้หนึ่งที่จังหวัดพัทลุง บอกตำราสร้างพระผงให้กับอาจารย์ชุม ไชยคีรี ชนิดหนึ่งเรียกว่า พระผงเทพนิมิต ในขณะทีกำลังทำพิธีพุทธาภิเศกนั้น ท่านได้เข้าประทับทรงช่วยปลุกเศกอีกตลอดไตรมาส ๓ เดือน ยิ่งกว่านั้นท่านได้ขอร้องให้อาจารย์ชุม ช่วยนำกระดูกของท่านและผงพระยอดขุนพล ผงพระขุนแผน ขึ้นจากใต้ฐานเจดีย์ที่ท่านได้บรรจุไว้ที่วัดตาลมาตั้งแต่ครั้งโบราณมาสร้างพระ

สืบต่อมาคณะศิษย์ทราบเรื่องได้ขอร้องให้อาจารย์ชุม สร้างพระพิมพ์ขุนแผน พระเทพนิมิต อาจารย์ชุม พิจารณาว่าหากสร้างขึ้น จะมีโอกาสนำเงินรายได้ไปสร้างพระอุโบสถวัดบ้านสวน ควนขนุน จังหวัดพัทลุง เพื่อถวายหลวงพ่อคง และแจกจ่ายทหารตำรวจที่ทำหน้าที่ป้องกันประเทศ ไว้เป็นเครื่องรางป้องกันตัวในคราวเดียวกัน…

ตำนานประวัติการจัดสร้างพระผงเทพนิมิต ปี พ.ศ. 2497  วัดพระบรมธาตุ จังหวัดนครศรีธรรมราช จัดสร้างโดยอาจารย์ชุม ไชยคีรี มีการสร้างทั้งหมดหลายพิมพ์ เช่น พระพุทธชินราชท่าเรือ พระนาคปรกนางตราหลังเจดีย์ พระนาคปรกนางตราหลังยันต์ พระขุนแผน พระรอด โดยจัดสร้างพิมพ์ละ 84,000 องค์ จัดให้มีพิธีพุทธาภิเษกขึ้นตลอดพรรษา ณ วิหารวัดพระบรมธาตุ ได้ฤกษ์กดพิมพ์องค์พระในวันที่ 2 สิงหาคม 2497 กดพิมพ์พระครบตามจำนวนที่กำหนดในวันที่ 1 กันยายน 2497 เสร็จสิ้นพิธีพุทธาภิเษก ในวันที่ 12 ตุลาคม 2497 ซึ่งเป็นวันออกพรรษา

เมื่อเสร็จพิธี อาจารย์ชุม ไชยคีรี ได้นำพระพิมพ์นางตราและชินราชท่าเรือขนาดใหญ่-เล็ก พระนาคปรกหลังยันต์ พระพิมพ์ขุนแผน ออกแจกด้วยตัวท่านเอง พร้อมสมุดอุปเท่ห์การบูชาพระ ผู้คนจึงรู้จักกันว่าเป็นพระของอาจารย์ชุม จำนวนการสร้างนั้นมีพิมพ์ละ 84,000 องค์

มวลสารที่รวบรวมมามีพระกรุสุดยอดพระเครื่องจากทั่วประเทศ มาดำเนินการสร้างพระผงเทพนิมิต จากการรวบรวมปรากฎว่าได้พระกรุมากว่า 108 กรุ ว่านยาอีก 108 ชนิด รวมทั้งผงวิเศษ อาทิเช่น พระกรุนางตราท่าเรือ, กรุท้าวโคตร, พระผงสุพรรณ, ผงดำผงแดงหุ่นพยนต์หลวงพ่อเกตุ วัดขวิด, ขุนแผนวัดพระรูปและวัดบ้านกร่าง, พระนางพญาวัดนางพญาและวัดต้นจันทร์, พระกรุต่าง ๆ ในกำแพงเพชร, พระกรุต่าง ๆ ในสุโขทัย , หูยานลพบุรี, ท่ากระดานหูไห กาญจนบุรี, พระกรุวัดท่ามะปราง, พระวัดชินราช พิษณุโลก, พระหลวงพ่อจุก, พระจุฬามณี พิษณุโลก, พระรอด พระคง พระเปิมลำพูน, มหาว่านวัดเขาอ้อพัทลุง, และพระกรุศรีวิชัย …ฯลฯ

พิธีพุทธาภิเษกครั้งแรก จัดขึ้นที่ วัดบรรพตพินิจ อำเภอเขาชัยสน จ.พัทลุง

พิธีพุทธาภิเษกครั้งที่ 2 จัดขึ้นที่วัดพระบรมธาตุ ในพิธีพุทธาภิเษกนี้ ได้นิมนต์พระเกจิอาจารย์ผู้เรืองเวทย์ จำนวน 108 รูป มาร่วมทำพิธีพุทธาภิเษก โดยมีท่านเจ้าคุณพระภัทรมุนี เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

รายนามพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมพิธีพุทธาภิเษก ที่โดดเด่น เช่น 1. หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน จันดี 2. หลวงพ่อโอภาสี บางมด ธนบุรี 3. หลวงพ่อเขียว วัดหรงบน 4. หลวงพ่อเมือง วัดท่าพญา 5. หลวงพ่อคง วัดคลองน้อย 6. หลวงพ่อมุ่ย วัดป่าระกำ ปากพนัง 7. หลวงพ่อแดง วัดโท ท่าศาลา 8. หลวงพ่อคลิ้ง วัดถลุงทอง ร่อนพิบูลย์ 9. หลวงพ่อแดง วัดเขาหลัก ทุ่งใหญ่ 10. หลวงพ่อตุด วัดทุ่งกง กระบี่  11. หลวงพ่อวัน มะนะโส วัดประสิทธิชัย  12. หลวงพ่อแสง วัดคลองน้ำเจ็ด ตรัง 13. หลวงพ่อปาล วัดเขาอ้อ 14. หลวงพ่อคง วัดบ้านสวน 15. หลวงพ่อดิษฐ์ วัดปากสระ 16. หลวงพ่อเจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก 17. หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดง ตะวันออก พัทลุง 18. หลวงพ่อพัว วัดเขาราหู (วัดบางเดือน) 19. หลวงพ่อแดง วัดคลองไทร 20. หลวงพ่อวิรัช วัดกะเปา คีรีรัฐนิคม สุราษฎร์ธานี 21. หลวงพ่อทอง วัดดอนสะท้อน 22. หลวงพ่อสงฆ์ วัดศาลาลอย 23. หลวงพ่อจีด วัดถ้ำเขาพลู 24. หลวงพ่อรุ่ง วัดบางแหวน ชุมพร 25. หลวงพ่อท้วม วัดเขาโบสถ์ บางสะพาน 26. หลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์ 27. หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง เพชรบุรี 28. หลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ เพชรบุรี 29. หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม 30. หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม นครปฐม เป็นต้น… ฯลฯ

อาจารย์ที่เป็นฆราวาสได้แก่ อาจารย์ชุม ไชยคีรี อาจารย์นำ แก้วจันทร์ พล.ต.ต. ขุนพันธรักษ์ ราชเดช

การปลุกเสกเน้นการเสกแบบเฉพาะทาง แบ่งออกเป็นช่วง ช่วงละ 7 วัน เช่น ปลุกเสกเน้นด้านคงกระพันชาตรี 7 วัน มหาอุด 7 วัน ป้องกันสัตว์ร้ายและโจรร้าย 7 วัน ป้องกันโรคภัยไข้เจ็บและภูตผีปีศาจ 7 วัน เมตตามหานิยม 7 วัน เป็นต้น

จากการสืบตำนานนิมิตรฝัน ใน ปี พ.ศ. 2496 มาถึง ปี พ.ศ. 2497 มาเป็นการสร้างพระอีกครั้ง มีข่าวให้ทราบทั่วกันอีกครั้ง ในการสร้างพระนาคปรกเทพนิมิตร อาจานย์ชุม ไชยคีรี สร้างเพื่อจัดหาทุนบูรณะเจดีย์พระบรมธาตุ และบริเวณโดยรอบ วัดไชยมงคล จังหวัดสงขลา เมื่อ ปี พ.ศ.2499   

พระนาคปรกเทพนิมิตร ปี พ.ศ.2499  อาจานย์ชุม ไชยคีรี สร้างเพื่อจัดหาทุนบูรณะเจดีย์พระบรมธาตุ และบริเวณโดยรอบ วัดไชยมงคล จังหวัดสงขลา ออกแบบเป็นพระนาคปรก หลังยันต์ห้า เป็นเหรียญเล็กแบบปรกใบมะขาม ขนาด 0.9 X 1.95 เซ็นติเมตร

พระนาคปรกเทพนิมิตร รุ่นนี้มีหลายเนื้อ เช่น เนื้อสัมฤทธิ์ เนื้อเงิน เนื้อทองคำ ได้สร้างขึ้นตามตำราเมืองพัทลุง และตำราอาจารย์คง อาจารย์ของขุนแผน  ซึ่งเมื่อครั้งนั้นได้เข้าประทับทรง กรุณาบอกให้ไว้ เมื่อครั้งสร้างพระผงเทพนิมิตร เมื่อปี พ.ศ.2496

การสร้างพระนาคปรกเทพนิมิตร เนื้อโลหะใน ปี 2499 ได้นำเอายันต์ ลงแผ่นโลหะ แผ่นเงิน แผ่นทองคำ ยันต์ 108 ดวงๆ ละ 108 ครั้ง สร้างพระแบบนาคปรกตามแบบพระผงเทพนิมิตรเดิม ณ วิหารพระพุทธนาคน้อย วัดประยุรวงศาวาส ธนบุรี ใช้เวลาการสร้างเป็นเวลา 48 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ.2498 ถึงวันที่ 14 มกราคม พ.ศ.2499

นั่งบริกรรมด้วยนัก พุทธนุสสติภาวนา คืนละ 8 คน นั่งปรกด้วยอาจารย์ผู้เฒ่า และสวดเจริญพุทธาภิเศกทุกคืน  แบ่งการบริกรรมออกเป็น 4 ระยะๆ 7 วัน  1.ทางคงกระพัน 7 วัน  2.เมตตามหานิยม 7 วัน 3.ทางโชคลาภ 7 วัน 4.ทางแคล้วคลาด 7 วัน

ตำนานประวัติครั้งนั้นกล่าวไว้ว่า เมื่อสร้างพระเสร็จ ใน ปี พ.ศ. 2499 อาจารย์ชุม ไชยคีรี ได้มีการทดลองต่อหน้าท่านผู้รู้ทั้งหลาย ครั้งละมากๆ คน จากการพิสูจน์ เป็นที่รับรองว่าถ้าใครเชื่อและเข้าถึงแล้ว เป็นที่พึ่งที่ระลึก กำจัดภัยได้จริงให้แก่ผู้นั้น สมตามความปรารถนา และเช่นเคย

สำหรับพระเครื่องที่สร้างโดย อาจารย์ชุม ไชยคีรี เมื่อใดแขวนพระให้ระลึก พุทโธ หายใจเข้านึกว่า พุทธ หายใจออกนึกว่า โธ แล้วกล่าวด้วยคาถา อิสวาสุ สุสวาอิ อะสังวิสุโลปุสะพุภะ ๓ จบ จะมีคุณวิเศษสูงสุด ด้าน คงกระพัน  เมตตามหานิยม โชคลาภ แคล้วคลาด  มีคุณค่าคุณวิเศษ ตามตำราที่กล่าวไว้ทุกประการในเบื้องต้น ที่ ในเบื้องต้นกล่าวเล่าความสืบต่อกันมา และฟังว่าได้ใจความว่า เด็กที่เกิดมาพ่อแม่เลี้ยงยาก เมื่อนำพระไปแขวนคอ จะให้กลายเป็นเด็กเลี้ยงง่าย เจริญรุ่งเรือง กันอุบัติเหตุพลัดตกจากที่สูง ไม่เป็นอันตราย ตกน้ำไม่จมเด็กลอยน้ำได้ เป็นต้น ฯลฯ

จากการสืบค้นตำนาน ประวัติ อ้างอิงเอกสารเก่า และเล่าความ พอสรุปข้อมูลได้ว่า มีข้อมูลตำนานเริ่มต้นจาก  ปี 2496(เกิดนิมิตรฝันสร้างพระแจกพิธียกครู)   ปี 2497(สร้างพระ 84,000 องค์ หลายพิมพ์ วัดพระบรมธาตุ นครศรีธรรมราช)  และจัดสร้างอีกครั้งใน ปี 2499(สร้างพระนาคปรกเนื้อโลหะเพื่อจัดหาทุนบูรณะเจดีย์พระบรมธาตุ และบริเวณโดยรอบ วัดไชยมงคล จังหวัดสงขลา)

ศึกษาเรียนรู้ประวัติพระนาคปรกใบมะขามเนื้อโลหะองค์เล็ก สายท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี มาถึงช่วงนี้ จึงพอได้ทราบความ ว่าเป็นเหรียญดี พิธีใหญ่แห่งยุคสมัย ที่ท่านได้สร้างฝากไว้เป็นผลงาน ไว้เป็นสมบัติโลก ที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก พระองค์เล็กๆ พุทธคุณคุณวิเศษกล่าวไว้ครอบจักรวาล…

ส่วนท่านใดจะเช่าหาบูชา ก็ต้องระวังให้มากๆ ชั่งใจให้เยอะในปัจจุบัน เพราะใครเล่าจะไปคิดว่า พระที่สร้างออกมามาก เป็นเหรียญไม่แพง ราคาจับต้องได้ เหรียญเล็กๆ แบบนี้ จะมีทำเรียนแบบออกมา สำหรับเหรียญทำเรียนแบบนั้นมีทั้งงาน เนื้อสัมฤทธิ์ เนื้อเงิน และทองคำ ซึ่งบางฝีมือก็ทำได้คล้ายกับของแท้…

หมายเหตุ สำหรับภาพที่ลงประกอบเรื่องในคอลัมนิสต์(COLUMNIST) พระเครื่องวันนี้  มองชมแล้วเข้าเกณฑ์ พระพิมพ์ พระนาคปรกเทพนิมิตร ท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี ก็หวังว่าจะเป็นพระแท้ตามมาตราฐาน เข้าตาท่านผู้อ่านท่านผู้ชม เมื่อส่องชม พิจารณา สังเกตุ เส้นแตกยันต์ห้า เส้นเกินตัวทา ตัวยะ เส้นรอบยันต์ นะอุอะมะ ธรรมชาติพื้นผิว เส้นสายจีวรสังฆาฎิคมชัด หูข้างแก้มรากยาว เม็ดดวงตาจมูก เส้นเสี้ยนพื้นผิว เนื้อเกินรองรับหูเจาะ เป็นธรรมชาติงดงาม มองชมแล้วเข้าเกณฑ์ พระพิมพ์ พระนาคปรกเทพนิมิตร ท่านอาจารย์ชุม ไชยคีรี หากท่านอื่นๆ ชมแล้ว มีข้อมูลเรียนรู้เพิ่มเติมได้ความรู้ที่แตกต่างก็แสงความคิดเห็นมาเล่าความกันบ้าง แล้วกลับมาพบกันใหม่ สวัสดี…

พุธราหู เรียบเรียงบทความ/ภาพ
พุธราหู เรียบเรียงบทความ/ภาพ

พุธราหู เรียบเรียงบทความ/ภาพ

Facebook Comments

อาชีพรับจ้าง , ช่างภาพ , นักข่าว , รับบันทึกภาพถ่ายภาพงานทั่วไป , แถลงข่าว , สารคดี , เป็นช่างภาพนักเขียนอิสระให้กับ นิตยสารหลายฉบับ , เว็บต่าง ๆ และหนังสือพิมพ์