วัดช้างให้ กองทัพบก ARMYLAND

กองทัพบก ARMYLAND วัดช้างให้ ปัตตานี

จังหวัดปัตตานี มีผู้ให้คำจำกัดความในการท่องเที่ยวจังหวัดปัตตานี โดยกล่าวว่า เป็นเมือง แห่ง 3 วัฒนธรรม โดยมีความเชื่อ ความศรัทธา ผูกโยงเรื่องราว ระหว่าง วัฒนธรรม ไทย จีน มลายู โดยมีการสนับสนุนบูรณาการทำงานโครงการร่วมกัน ส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวดัง ๆ หลายแห่ง

แหล่งท่องเที่ยวหลายแห่งผูกพันธ์เกี่ยวโยงกับทางประวัติศาสตร์ มีเรื่องเล่า มีตำนาน ในสถานที่สำคัญ ๆ มีแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามด้านสถาปัตยกรรม ทั้งในเมือง ธรรมชาติ วิถีชีวิต ชุมชม ร่วมทั้งอาหารการกิน โดยเฉพาะ โรตรี ชาชัก ดังไปไกลถึงต่างแดน

กองทัพบก ARMYLAND ดินแดนท่องเที่ยวในเขตทหาร เพื่อส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวในเขตทหาร ภายใต้ โครงการ “ARMYLAND” ดินแดนท่องเที่ยวในเขตทหาร

ตามแผนยุทธศาสตร์การส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวในเขตทหารกองทัพบก (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖๔) ที่ให้ความสำคัญในการพัฒนาการท่องเที่ยว บุคลากรการท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริม รวมทั้งการเตรียมความพร้อมสำหรับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สู่การเติบโตในอนาคต และการลงทุนเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่ระหว่างภาครัฐและเอกชน

พลตรีธนณัฐ ยังเฟื่องมนต์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบก กล่าวบรรยายบนรถระหว่างเดินทาง โดยกล่าวว่า ต้องขอย้ำเน้นทำความเข้าใจก่อนนะครับ ทหารและกองทัพไม่ได้เข้ามาทำธุรกิจ แต่เป็นการสร้างงานสร้างกิจกรรมร่วมส่งเสริมพื้นที่ทางทหารและใกล้เคียง

โดยมีแนวความคิดในการพัฒนาการท่องเที่ยวในเขตทหาร ซึ่งประกอบด้วย การท่องเที่ยวเพื่อ การนันนาการและผจญภัย , การท่องเที่ยวเพื่อการเรียนรู้ , การท่องเที่ยวเพื่อฝึกอบรม , การท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพและการกีฬา , การเที่ยวเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจและธรรมชาติ , การท่องเที่ยวเพื่อการประชุมและนิทรรศการ และ การท่องเที่ยวเพื่อความรับผิดชอบและการตอบแทนทางสังคม บนแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง

โครงการ “ARMYLAND” ดินแดนท่องเที่ยวในเขตทหาร กองทัพบก จะเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวที่เข้ามาร่วมกิจกรรม เพื่อเข้ามาท่องเที่ยว พักผ่อน หรือร่วมกิจกรรมนันทนาการ หรือ กิจกรรมด้านกีฬาอาทิเช่น สนามทดสอบกำลังใจ ปีนหน้าผาจำลอง กระโดดหอ ยิงปืน และยังมีพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ โบราณสถานสำคัญ การแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์ ฯลฯ

ซึ่งการเข้าร่วมกิจกรรมท่องเที่ยว โครงการ “ARMYLAND” ดินแดนท่องเที่ยวในเขตทหาร กองทัพบก จะสามารถทำได้เฉพาะในหน่วยราชการทหารเท่านั้น สำหวับวันนี้ ออกจากค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เลี้ยวขวาไปไม่ไกลจะเดินทางไป วัดช้างให้

จะเริ่มเข้าไปท่องชมวัฒนธรรมไทย สถานที่แรก ที่เป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวผู้คนทั้งในพื้นที่ และทั่วไป โดยช่วงเดินทาง ผู้เขียนก็มักจะ ตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่า นะโมโพธิสัตย์โต อะคันติมายะ อิติภะคะวา …ฯ

วัดช้างให้ ตำบลควนโนรี อำเภอโคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เชื่อว่าหลายท่าน ที่เป็นสาธูชนชาวพุทธทั่วไป ไม่มีใครไม่รู้จัก หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ (ช้างร้อง ไห้ ที่สื่อความหมายว่า ร้อง) ซึ่งวันนี้ขอเขียนถึงแบบย่อ ๆ เพราะตำนานในองค์หลวงปู่ทวด มีหลากหลายกระแส เขียน 100 หน้า กระดาษ A4 ก็คงไม่จบ สำหรับผู้เขียน ถึงแม้จะมีตำนานมาเล่าแบบใด เป็นไปตามความเชื่อของแต่ละบุคคล ในส่วนของภาวะจิตใจ ในภาวะการภาวนาที่จิตใจยึดเหนี่ยว ก็มีหลักใจที่ดี มีที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ตั้งนะโม 3 จบ แล้วว่า นะโมโพธิสัตย์โต อะคันติมายะ อิติภะคะวา พุทธโธ ๆๆๆๆๆๆ ฯลฯ

วัดช้างให้ เป็นวัดเก่าแก่สร้างมาแล้วกว่า 300 ปี ตำนานกล่าวว่า พระยาแก้มดำเจ้าเมืองไทรบุรี ต้องการหาชัยภูมิ สำหรับสร้างเมืองใหม่ให้กับน้องสาว จึงได้เสี่ยงอธิฐาน ปล่อยช้างให้ออกเดินทางไปในป่า โดยมีเจ้าเมือง ไพร่พล เดินติดตามไป จนมาถึงวันหนึ่ง ช้างได้หยุดอยู่ ณ ที่แห่งหนึ่ง ร้อง(ไห้)ขึ้นสามครั้ง พระยาแก้มดำ จึงได้ถือเป็นนิมิตที่ดี จะใช้บริเวณนั้นสร้างเมือง แต่น้องสาวไม่ชอบ พระยาแก้มคำ จึงให้สร้างวัด ณ บริเวณดังกล่าวแทน แล้วให้ชื่อว่า “วัดช้างไห้ หรือช้างร้อง” นั้นเอง กาลต่อมาจึงได้นิมนต์พระภิกษุรูปหนึ่ง ที่ชาวบ้านเรียกว่า ท่านลังกา

ท่านลังกา หรือ สมเด็จพะโคะ หรือ หลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาเป็นเจ้าอาวาสองค์แรก หลวงปู่ทวด ท่านได้เดินธุดงค์ไปมา ระหว่างเมืองไทรบุรีกับวัดช้างให้ และได้สั่งลูกศิษย์ไว้ว่า ถ้าท่านมรณะภาพ ขอให้นำศพไปทำการฌาปนกิจ ณ วัดช้างให้ ซึ่งเมื่อท่านมรณะภาพที่เมืองไทรบุรี ลูกศิษย์ก็ได้นำศพท่านมา ทำการฌาปนกิจที่วัดช้างให้ อัฐิของท่านส่วนหนึ่งฝังไว้ที่วัดช้างให้ อีกส่วนหนึ่งนำกลับไปเมืองไทรบุรี ต่อมาได้สร้างสถูปบรรจุอัฐิของท่านไว้ที่วัดช้างให้

เมื่อปี พ.ศ. 2480 พระครูมนูญเจ้าอาวาสวัดพลานุภาพ เจ้าคณะตำบลทุ่งพลา ให้พระช่วงมาเป็นเจ้าอาวาสวัดช้างให้ ท่านได้ชักชวนชาวบ้านมาแผ้วถางป่า สร้างกุฎิ ศาลาการเปรียญ พร้อมเสนาสนะอื่น ๆ จึงได้ชื่อว่า วัดราษฎร์บูรณะ

เจ้าอาวาสองค์ต่อ ๆ มาก็ได้บูรณะเพิ่มเติมวัดช้างให้ มาตามลำดับจนถึงปัจจุบัน วัดช้างให้ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อปี พ.ศ. 2500 และผูกพันธสีมา เมื่อปี พ.ศ. 2501 สำหรับหลวงปู่ทวด เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในปัจจุบัน ก็ด้วยกำเนิดจาก นิมิตร พระครูวิสัยโสภณ (พระอาจารย์ทิม ธมฺมธโร)

วันนี้เป็นบุญ มีวาสนา ที่ได้เดินทาง มากราบหลวงปู่ทวด แบบเร่ง ๆ ด้วยว่าจะเดินทางต่อ ส่วนวัดจะปิดสถานที่ ช่วง 16.00 น. แต่หากมาช้า กราบสถูปด้านทางรถไฟ ก็ได้ครับ แต่ถ้าช้า ก็นึกภาวนาให้พระติดที่จิตใจยิ่งดี เดินทางปลอดภัย มีโชค มีลาภ เพิ่มวาสนา เพิ่มบารมี เจริญรุ่งเรือง พบแต่สิ่งดี ๆ ตลอดกาลนานเทิญ…

ตั้งนะโม 3 จบ แล้วภาวนา นะโมโพธิสัตย์โต อะคันติมายะ อิติภะคะวา หลับฝันดี เดินทางปลอดภัย โชค วาสนา

ส่วนวัดอื่นดัง ๆ ในเมืองปัตตานี หากมีเวลา แนะนำ ถ้าออกจากวัดช้างให้ ให้วิ่งรถเข้าหาจังหวัดปัตตานี จะผ่าน วัดทรายขาว และหากวิ่งเลยแยกที่จะเลี้ยวไปหาดใหญ่ ให้ตรงไปทางปัตตานี จะเห็นประตู วัดตุหยง ริมถนน

วัดตุหยง หนองจิก เจ้าคุณราชพุทธิรังษี (อ.ดำ วัดตุหยง) วัดมุจลินทวาปีวิหาร จังหวัดปัตตานี , วัดทรายขาว อ.นอง , พ่อท่านแดง วัดศรีมหาโพธิ์ ปัตตานี และอ.แดง วัดไร่ เป็นต้น

ผู้เขียนเองนั้น เกิดไม่ทันยุคสมัยอดีต เขียนเล่าบทความ ไปตามตำนาน ที่เล่าปากต่อปาก ที่ไม่มี ไม่ได้ใช้ ไม่มีหลักศิลาจารึกบันทึกไว้ ดังนั้นจึงอย่าใช้บทความของผู้เขียน เป็นข้อยุติ หรือสรุปในปัจจุบัน เพราะบทความนี้ เป็นบทความ สารคดีเชิงท่องเที่ยว ส่งเสริมเชื่มโยงการท่องเที่ยวในสามจังหวัดภาคใต้ ที่บ่งบอกปัจจุบันว่าจังหวัดปัตตานี เมืองสามวัฒนธรรม ตำนาน เรื่องเล่า

สามจังหวัดภาคใต้ มีสถานที่ท่องเที่ยว ทางธรรมชาติที่สวยงาม มีโบราณสถานให้ศึกษา มีขนมธรรมประเพณี และวัฒนธรรมที่ดีงาม ไม่แพ้ที่ใดในประเทศไทย หากสามารถนำพา สามจังหวัด มาพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ทางโบราณสถาน ทางธรรมชาติ

เชื่อว่าทรัพยากรทางอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ที่มีอยู่ สามารถสร้างให้เกิดประโยชน์กับคนท้องถิ่น ประชาชนในชาติ ตลอดจนก่อให้เกิดประโยชน์ต่อพื้นที่ ก็สามารถผลักดันเศรษฐกิจชุมชน สู่มวลรวมใหญ่ ไปสู่เศรษฐกิจประเทศไทย ได้ดีแน่นอน

สำหรับการเดินทางในช่วงที่ผ่านมา เป็น โครงการ สื่อมวลชนสัญจรท่องเที่ยวแดนใต้ เส้นทางดอนเมือง นราธิวาส ปัตตานี สงขลา พัทลุง นครศรีธรรมราช สุราษธานี จัดโดย สำนักงานส่งเสริมท่องเที่ยวกองทัพบก (สง.ทท.ทบ.) วันนี้ลาไปก่อน กลับมาพบกันใหม่ จ.สงขลา…สวัสดีครับ…

ขอบคุณ สำนักงานส่งเสริมท่องเที่ยวกองทัพบก (สง.ทท.ทบ.) สิงห์ราหู เรียบเรียงข่าว-ภาพ เมืองปัตตานี

#สำนักงานส่งเสริมท่องเที่ยวกองทัพบก(สง.ทท.ทบ.) #ค่ายอิงคยุทธบริหาร #อำเภอหนองจิก #จังหวัดปัตตานี #สื่อสังคมข่าว #มัสยิดกรือเซะ #มัสยิดกลางจังหวัดปัตตานี #เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว #สกายวอล์คปัตตานี #กองทัพบกARMYLAND #ARMYLAND
More from my site

อาชีพรับจ้าง , ช่างภาพ , นักข่าว , รับบันทึกภาพถ่ายภาพงานทั่วไป , แถลงข่าว , สารคดี , เป็นช่างภาพนักเขียนอิสระให้กับ นิตยสารหลายฉบับ , เว็บต่าง ๆ และหนังสือพิมพ์