ใบไม้เปลี่ยนสี ญี่ปุ่น
ใบไม้เปลี่ยนสี ประเทศญี่ปุ่น( Koyo Go JAPAN)
ใบไม้เปลี่ยนสี ประเทศญี่ปุ่น( Koyo Go JAPAN) ชาวญี่ปุ่น เรียกการชมใบไม้เปลี่ยนสีว่า “โคโย” (Koyo) โดยสื่อความหมายคำโคโยว่า “ใบไม้แดง” โดยช่วงที่เดินทางไปนั้น ใบไม้แดงในประเทศญีปุ่น จะเริ่มเปลี่ยนสี จากภาคเหนือลงสู่ภาคใต้ แต่การเปลี่ยนสี ก็อาจเป็นไปตามสภาพภูมิอากาศในปีนั้น ๆ ซึ่งใบไม้เปลี่ยนสี สามารถหาชมได้ทั่วไป ในประเทศญี่ปุ่น เช่น วัด ศาลเจ้า ข้างถนน สวนสาธารณะ ภูเขา ริมลำธาร เป็นต้น
สำหรับต้นไม้ที่ใบจะเปลี่ยนสี เช่น ต้นเมเปิล(Momiji) ใบไม้สีแดง ต้นแปะก๊วย(Icho) ใบไม้สีเหลือง และบางพื้นที่จะจัดให้มีเทศกาลชมใบไม้เปลี่ยนสี ดังนั้นการเดินทางครั้งนี้จึงเน้น การชมใบไม้เปลี่ยนสี เป็นหลัก…
บินลัดฟ้าสู่ประเทศญี่ปุ่น การเดินทางเริ่มขึ้นอีกครั้ง… ถึงแม้ว่าเส้นทางสายนี้ ผู้เขียนจะก้าวเดินมาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังชื่นชม ชื่นชอบความงดงามทางธรรมชาติในประเทศญี่ปุ่น การแบกเป้ลากกระเป้าเดินทาง จึงเกิดขึ้นอีกครั้งกับชีวิต และเป็นอีกบทสรุปในการพึงพาตนเอง แผนที่ จองที่พัก ตรงต่อเวลาสิ่งเหล่านี้ จึงควรทำการบ้านมาเป็นอย่างดี การทำการบ้าน การหาข้อมูล ที่หนักหน่วงจึงเป็นเรื่องที่ต้องพึงกระทำ นำมาปฏิบัติ จากการเดินทาง ก็พอจะสรุปเส้นทางมาเล่าสู่กันฟัง ได้ใจความว่า เป็นเส้นทางที่ สะดวก สบาย หากเราทำการบ้านมาดี เช่น เช็คช่วงเวลาการต่อสายการบินมาดี ต่อรถไฟ รถเมล์ เวลาเข้าที่พัก เป็นต้น เรียกว่าให้เข้าใกล้เป้าหมายมากที่สุด วันนี้จากการที่เคยบินตรงไปประเทศญี่ปุ่น จึงเกิดเส้นทางบินต่อเครื่อง หรือเรียกว่าทรานเฟอร์(Transfer) จากสุวรรณภูมิ บินต่อเครื่อง สายการบินเวียดนามแอร์ไลท์(Vietnam Airlines) ลงที่สนามบินนานาชาตินอย์ไบ(Noi Bai Internnational)
สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ถึง สนามบินนานาชาตินอยไบ(Noi Bai Internnational) การมาสนามบินสุวรรณภูมิ ในปัจจุบัน ต้องบอกก่อน กรุณา ๆ เดินทางแบบเผื่อเวลาให้มาก ๆ อย่างน้อยให้ถึงก่อนการบิน 2.5 ชั่วโมง เพราะว่าในปัจจุบัน นักเดินทางเยอะมาก กว่าจะเช็คตั๋ว(เช็คตั๋ว ตรวจตั๋วให้ดี บินจากไหนไปไหน) กว่าจะโหลดกระเป๋า กว่าจะผ่านตรวจคนออกนอกประเทศ ทั้งหมดต้องใช้เวลาต่อคิว เป็นชั่วโมง
สำหรับสายการบินวันนี้ เราเลือกใช้ สายการบินเวียดนามแอร์ไลท์ นั้นเป็นเพราะ ราคาถูกกว่าสายการบินอื่น ๆ การบริการอาหาร เครื่องดื่ม ก็มาตราฐานตามราคา เรียกว่าองค์รวมการบริการถือว่าใช้ได้ตามราคา สำหรับการเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ ควรเลือกตารางการบินช่วงกลางคืน เพราะจะประหยัดค่าที่พัก การพักหลับนอน จึงเป็นบนเครื่อง และจุดต่อเครื่อง ที่สนามบินนอยไบ่ประเทศเวียดนาม
สนามบินนอยไบ ถึง สนามบินเซ็นทรัลเจเปน(Central Japan International Airport )ประเทศญี่ปุ่น สำหรับช่วงต่อเครื่องที่ประเทศเวียดนามนั้น ควรเผื่อเวลาให้มาก อย่างน้อย 2 ชั่วโมง เพราะปัจจุบัน เพื่อความปลอดภัยทางการบิน การมาต่อเครื่อง ท่านจะต้องรีเช็คสัมภาระติดตัวใหม่ 3 จุด แบ่งเป็น 2 จุดตรวจตั๋วเครื่องไฟล์บิน(ตรงนี้เวลาออกตั๋วเครื่องเราควรเช็คให้ดี ว่าเดินทางจากไหนไปไหน เพราะทริปนี้เพื่อนผมโดนครับ ออกตั๋วผิดสนามบิน ต้องระวังเรื่องตั๋วก่อนเข้าตรวจคนเข้าเมือง) และอีก 1 จุด สแกนเครื่องใช้ สัมภาระ ร่างกาย ผ่านเครื่องตรวจใหม่อีกรอบ ตรงจุดต่อเครื่องบอกตรง ๆ คิวยาวเหยียด…
วันนี้เราเสียเวลามากในการต่อเครื่องบิน แต่เพราะเราคำนวนเวลามาดี ในช่วงการลงต่อเครื่องหรือเรียกว่าทรานเฟอร์(Transfer) ช่วงที่อยู่ในสนามบินนอยไบ ประเทศเวียดนาม จะมีช่องทาง ทางออกพิเศษ เป็นช่องทางขึ้นต่อเครื่องโดยจำเพราะ ซึ่งจะเปิดประตูตรวจพาสปอต์ ตรวจตั๋วต่อเครื่อง ก็ต่อเมื่อมีเครื่องบินมาลงจอดและต่อเครื่องเท่านั้น โดยส่วนใหญ่ ช่วงเวลารอต่อเครื่อง จะอยู่ประมาณ 2-4 ชั่วโมง ซึ่งก็เป็นการดี คือ เราจะได้นอนรอ พักออมเรี่ยวแรงไว้ท่องเที่ยว เรียกว่าพอผ่านด่านตรวจขึ้นมาเรียบร้อยก็ไปนอนรอ นั่งรอตรงสถานที่ ที่เรียกขึ้นเครื่องบิน สำหรับสนามบินนอยไบในปัจจุบัน ก็สะอาดดีมาก มีที่นั่งรอเพียงพอรองรับและห้องน้ำรองรับอย่างดี จากช่วงเวลาดึก ๆ เรากะว่า ออกจากสนามบินนอยไบ ไปเช้าที่สนามบินเซ็นทรัลเจเปน(Central Japan International Airport )ประเทศญี่ปุ่น หรือเรียกสั้น ๆ ว่า เซ็นทรัล จ.ไอจิ ซึ่งวันนี้เมื่อมาถึงญี่ปุ่น อาจจะเที่ยวแบบง่วง ๆ สำหรับคนนอนยาก สำหรับตอนนี้ขอหลับซัก 2 ชั่วโมง ออมเรี่ยวแรงไว้เที่ยวก่อนจะ
สนามบินเซ็นทรัลเจเปน(Central Japan International Airport ) ประเทศญี่ปุ่น สนามบินแห่งนี้ เป็นสนามบินอยู่ในทะเล หากมองออกไปทางหน้าต่างเครื่อง จะเห็นชัดเจน คือ เห็นแผ่นดินเป็นสนามบิน มีทะเลล้อมรอบ และมีทาง เป็นทางเชื่อมไปบนเกาะในแผ่นดิน พอมาถึงสนามบินเซ็นทรัลเจเปน เดินออกมาไม่ไกล จะมองเห็นจุดกรอกข้อความให้เรียบร้อย มีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการตรวจเอกสาร กรอกเอการเสร็จก็ไปเข้าแถวยื่นรอตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งการซักถามก็ประมาณว่า มาทำไม พักที่ไหน หากเดินทางมาเองแบบผู้เขียนก็ขอแนะนำ แนบเอกสารการพักค้างแรมในประญี่ปุ่นแนบด้วยจะเป็นการดี พร้อมทั้งแจ้งแนบเอกสารการบินกลับด้วย พอออกมาจากตรวจคนเข้าเมือง เราก็ตรง(ดิ่ง)ไปส่วนของการรับกระเป้ากับสายพานระนาบเรียบไม่เอียง เหมาะกับการจับหยิบกระเป๋า แล้วนำสัมภาระกระเป๋าไปฝากกระเป๋า ซึ่งตรงนี้เพื่อลดภาระการแบกสิ่งของ เราจะได้เดินท่องเที่ยวแบบตัวปลิว
แมวดำ รับส่งของ ในสนามบินเซ็นทรัลเจเปน(Baggage Delivery Service) พอเดินออกมา จากตรวจคนเข้าเมือง สำรับวันนี้เราจะไปเที่ยวกี่วันนั้น ก็แยกสิ่งของจำเป็นออกมา จากกระเป๋าใหญ่ ใส่กระเป๋าเล็กเท่าที่จำเป็น เพราะสัมภาระหนัก เราจะส่งไปรอที่ โรงแรมในเกียวโต ซึ่งก็คือว่า พอออกจากสนามบินเซ็นทรัลเจเปน เราจะเที่ยวไปตามเมืองต่าง ๆ ไปเรื่อย ๆ กว่าจะพบสัมภาระอีกที่ก็ที่เกียวโต ซึ่งค่าบริการในการขนส่งนั้นก็สบาย ๆ ไม่แพงมาก แถมเป็นการบริการที่ตอบสนอง ความสะดวกสบายต่อนักเดินทาง เรียกว่าเป็นการบริการที่ดีมาก
สนามบินเซ็นทรัลเจเปน ไป นาโกย่า ส่งสัมภาระหนักไปกับบริการโดยทีมงานแมวดำเป็นที่เรียบร้อย พอเดินผ่านทางเชื่อมเดินออกมา มองหาที่ซื้อตั๋วรถไฟ ก็จะมองเห็นเด่นชัดไม่ซับซ้อน เรียกว่าคิดเผื่อคนเดินทาง เพื่อประชาชนได้ดีมาก ตอนนี้สิ่งแรกที่ต้องทำ คือ เดินทางต่อ ไปติดต่อตั๋วรถไฟให้เรียบร้อย เพื่อเดินทางไปสถานีนาโงย่า ต้องไป ซื้อตั๋วรถบัส สำหรับตั๋ว 1 Day Subway Ticket และจากการขีดเส้นทางเดินทาง เรากะว่าจะไปเดินเท่ห์ ๆ แตร่ ๆ ในเมืองนาโงย่า เพราะสถานที่แรกที่จะไป ชมใบไม้เปลี่ยนสีว่า “โคโย” (Koyo) โดยสื่อความหมายคำโคโยว่า “ใบไม้แดง”
สวน Obara Fureai เมือง Obara พอขึ้นรถเมล์ ระหว่างทางใช้เวลาพอควร กะหลับพักเอาแรง แต่เจ้ากรรม วิวล์สองข้างทางทำให้หลับไม่ลง จนมาถึงสวน Obara Fureai เมือง Obara สถานที่สวนแห่งนี้ มีความโด่งดังในการชมใบไม้เปลี่ยนสีพร้อมซากุระบาน
ดอกซากุระที่โอบาระ เป็นสายพันธุ์ Shikzakura หรือเรียกกันว่า ซากุระสี่ฤดู ดอกจะเล็กกว่าซากุระทั่วไป แต่จะดอกบาน ทนนานกว่าซากุระสายพันธุ์อื่น และหากนักเดินทางมาช่วงระหว่างวันที่ 1-30 พ.ย. ที่สวน Obara Fureai เมือง Obara จะจัดงานเทศกาลชมดอกซากุระสี่ฤดู โดยจะมีซุ่มอาหาร เครื่องดื่ม และการออกร้านค้าต่าง ๆ ให้เพลิดเพลินการชม ชิม เป็นต้น
สวนผู้เขียน มาเยือนสวน Obara Fureai เมือง Obara ในช่วงเดือน ธันวาคม ซึ่งจะเข้าปีใหม่อยู่แล้ว ถึงแม้จะเดินทางมาหลังช่วงเทศกาล มาถึงก็ไม่ผิดหวัง ยังมองเห็นความงดงามของใบไม้เปลี่ยนสีและดอกซากุระ เกือบเต็มพื้นที่ เรียกว่ามาแล้วไม่ผิดหวัง… สมใจ ที่อยากชม… ช่วงที่เดินทางไป ใช่ว่ามีแต่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาชื่นชมสวนแห่งนี้ คนพื้นที่ ชาวญี่ปุ่นเอง ก็มีมาชมใบไม้เปลี่ยนสีดอกซากุระบาน กันอย่างมาก โดยความเดิมประเมินเวลา คิด ตั้งใจไว้ว่าจะเดินชมสวน โดยประมาณ 2 ชม.
เพราะตั้งโปรแกรมกันไว้ว่า ก่อนค่ำ โพล้เพล จะไปชมงานประดับไฟ ที่ยิ่งใหญ่ของประเทศญี่ปุ่น มีความยาว 200 เมตร ใช้ไฟกว่า 1.2 ล้านดวง ที่สวนดอกไม้ Nabana no Sato จ.มิเอะ โดยนั่งรถไฟจากนาโงย่า 7 สถานี
สรุปรวมหัวกันตัดสินใจใหม่ ไม่ไปชมไฟ เพราะโดน โดนความงดงาม สถานที่สวน Obara Fureai เมือง Obara ใบไม้เปลี่ยนสีดอกซากุระบาน ดึงไว้จนไม่อยากไปที่ไหน เดินชมสวนจนเกือบค่ำ เรียกว่า อยู่ในสวน รอรถเมล์เที่ยวสุดท้าย จึงกลับไปนอนพักผ่อนหลับนอน ที่ นาโกย่า(Nagoya) คืนนี้หลับสบาย ฝันดี ฝันเห็นพระ
เช้าตื่นมาจะออกเดินทางแต่เช้า ถ้าเวลาเหลือมาก จะไปทำตั๋วรถไฟฟ้าชิงคันเซ็น(Shinkansen)เตรียมไว้ และถ้าเวลาเหลือ จะแวะไปทานเนื้อ เส้นโซบะ และชมบ้านโบราณ ที่เมืองคายาม่า แต่ถ้าเวลาไม่ได้ รถเมล์ไม่ได้เวลา ก็พบกันอีกครั้งที่ หมู่บ้านชิราคาวาโกะ
ปล. ได้เดินทางมา สวน Obara Fureai เมือง Obara ได้พบกับความงดงามในฤดูใบไม้เปลี่ยนสี… และไม่ได้บันทึกภาพ มุมที่อยากได้ เสียดายมาก บางมุมที่เป็นมุมสูง เห็นทั้งใบไม้เปลี่ยนสีและซากุระบาน เป็นมุมกว้าง ไปตามภูสูง เนินสวย ได้แต่นั่งชมอยู่บนรถ…แบบ เสียดาย ๆ ๆ …เอิกๆๆๆๆๆๆ
หมายเหตุ.- ข้อมูลจำเพราะ ญี่ปุ่น มีชื่อทางการคือประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศหมู่เกาะในภูมิภาค เอเชียตะวันออก ตั้งอยู่ใน มหาสมุทรแปซิฟิก ทางตะวันตกติดกับ คาบสมุทรเกาหลี และ ประเทศจีน โดยมี ทะเลญี่ปุ่น กั้น ส่วนทางทิศเหนือ ติดกับ ประเทศรัสเซีย มี ทะเลโอค็อตสค์ เป็นเส้นแบ่งแดน
ญี่ปุ่นมีเนื้อที่กว่า 377,930 ตารางกิโลเมตร นับเป็นอันดับที่ 61 ของโลก หมู่เกาะญี่ปุ่นประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่กว่า 3,000 เกาะ เกาะที่ใหญ่ที่สุดก็คือ เกาะ ฮนชู ฮกไกโด คีวชู และ ชิโกะกุ ตามลำดับ เกาะของญี่ปุ่นส่วนมากจะเป็นหมู่เกาะภูเขา ซึ่งในนั้นมีจำนวนหนึ่งเป็นภูเขาไฟ เช่น ภูเขาไฟฟูจิ ภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศ เป็นต้น ประชากรของญี่ปุ่นนั้นมีมากเป็นอันดับที่ 10 ของโลกคือ ประมาณ 128 ล้านคน เมืองหลวงของญี่ปุ่นคือ กรุงโตเกียว ซึ่งถ้ารวมบริเวณปริมณฑลเข้าไปด้วยแล้วจะกลายเป็นเขตเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่มีประชากรอยู่อาศัยมากกว่า 30 ล้านคน
รหัสโทรศัพท์ +81 , สกุลเงิน เยน , ประชากร 127 ล้าน (พ.ศ. 2559) ธนาคารโลก , ภาษาราชการ ภาษาญี่ปุ่น
อาชีพรับจ้าง , ช่างภาพ , นักข่าว , รับบันทึกภาพถ่ายภาพงานทั่วไป , แถลงข่าว , สารคดี , เป็นช่างภาพนักเขียนอิสระให้กับ นิตยสารหลายฉบับ , เว็บต่าง ๆ และหนังสือพิมพ์
